"สายเชีย" มอบหมายทนายความ เตรียมเอาผิดสื่อและเพจต่างๆ ปล่อยข่าวทำเสียหาย

03 ตุลาคม 2565

"สายเชีย วงศ์วิโรจน์" มอบหมาย "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" เตรียมเอาผิดสื่อและเพจต่างๆ ปล่อยข่าวทำให้เข้าใจผิด ทำเสียหาย

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง ระบุว่า

เรียน สื่อมวลชน

ผมในฐานะทนายความของ "คุณสายเชีย วงศ์วิโรจน์"

ได้รับมอบหมาย จากคุณสายเชีย วงศ์วิโรจน์ ให้แจ้งข่าว และ บอกกล่าว ต่อสื่อมวลชน , ประชาชน ที่ติดตามข่าวสารของ คุณสายเชีย วงศ์วิโรจน์ ว่า

เนื่องจาก มีผู้สื่อข่าว เพจต่างๆ และ ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ได้กล่าวถึง คุณสายเชีย เกี่ยวกับการ คบหา กับสุภาพสตรี ท่านหนึ่ง ในลักษณะว่า เป็นแฟน หรือ ชู้สาวกันมาหลายปี โดยนำรูปภาพของสุภาพสตรี มาลง โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของภาพ

สายเชีย มอบหมายทนายความ เตรียมเอาผิดสื่อและเพจต่างๆ ปล่อยข่าวทำเสียหาย

 

โดยมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ ในทำนอง ทำให้ฝ่ายหญิงได้รับความเสียหาย ต่อชื่อเสียง และ ภาพลักษณ์

ซึ่งทำให้คุณสายเชีย และ สุภาพสตรี ท่านนั้นไม่สบายใจอย่างยิ่ง

คุณสายเชีย จึงได้มอบหมายให้ผม ในฐานะทนายความ แจ้งต่อสื่อมวลชน และ ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ให้ทราบว่า

เนื้อหาข่าว หรือ ตามที่มีการกล่าวถึงดังกล่าวนั้น เป็นความเข้าใจผิด

ที่ถูกต้อง คือ คุณสายเชีย และน้องผู้หญิง ไม่ได้คบกันฉันชู้สาวแต่อย่างใด

เพียงแต่รู้จักและคบหากันเหมือนพี่น้อง - เพื่อนร่วมงาน ทั่วไป มิได้มีความสัมพันธ์เกินเลยฉันชู้สาว ดังที่เป็นข่าว แต่อย่างใด

 

การนำเสนอข่าว และ การวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้ฝ่ายหญิง ซึ่งรับราชการ ได้รับความเสียหาย ต่อชื่อเสียง และภาพลักษณ์ อย่างยิ่ง

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น ผมจึงขอเรียนต่อ สื่อมวลชน และ ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ได้โปรดเข้าใจใหม่

ซึ่ง สื่อ , เพจ หรือ ท่านใด นำเสนอข่าว ที่ก่อให้เกิดการเข้าใจผิด และ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อคุณสายเชีย และ ฝ่ายหญิง

กรุณาลบข่าว หรือ ข้อความ หรือ โปรดแก้ไขข่าวสาร ให้ถูกต้อง ดังที่ผมได้เรียนมาแล้ว ดังกล่าวข้างต้น

หากท่านยังจงใจ เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ อันเป็นการละเมิดต่อคุณสายเชีย และ ฝ่ายหญิง

คุณสายเชีย ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดี ทั้งทางแพ่งและอาญา ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

ทนายเกิดผล แก้วเกิด

(ทนายความผู้รับมอบอำนาจ)

สายเชีย มอบหมายทนายความ เตรียมเอาผิดสื่อและเพจต่างๆ ปล่อยข่าวทำเสียหาย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews