สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว

09 กันยายน 2565

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต ณ พระราชวังบาลมอรัล สกอตแลนด์ สิริพระชนมพรรษา 96 พรรษา

สืบเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้มีรานงานว่า พระราชวังบัคกิงแฮมของอังกฤษออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรหลังเพิ่งทรงเข้ารับการประเมินจากแพทย์

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต

โดยในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ทีมแพทย์ได้แนะนำให้องค์ประมุขแห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ ซึ่งทรงมีพระชนมายุ 96 พรรษา อยู่ในการดูแลของแพทย์ต่อไปอีกระยะ พร้อมเปิดเผยว่า พระองค์ทรง "รู้สึกสบายดี" ขณะที่ยังประทับอยู่ที่พระราชวังบาลมอรัล ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระองค์


นอกจากนี้ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ได้ทรงยกเลิกการประชุมกับองคมนตรีเมื่อวันพุธไป ขณะที่ สำนักข่าวบีบีซี รายงานในวันพฤหัสบดีว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และพระบรมวงศานุวงศ์อื่นๆ ได้เดินทางมายังพระราชวังบัลมอรัลแล้ว

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต

ต่อมามีรายงานเพิ่มเติมว่า พระราชบุตรและพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้เสด็จพระราชดำเนินถึงพระตำหนักบาลมารัลในสกอตแลนด์แล้วเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับพระพลานามัยของพระองค์

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต

 

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ พร้อมกับพระชายา คามิลลา ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ รวมทั้งเจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด รวมทั้งเจ้าชายแฮร์รี่ พระราชนัดดา และเมแกน ได้รีบเดินทางไปยังปราสาทบาลมารัล ในสกอตแลนด์ขณะที่สมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษอีกหลายพระองค์กำลังเสด็จพระราชดำเนินมายังพระตำหนักบาลมารัลเช่นกัน

สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต

ล่าสุดมีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว เมื่อเวลา 00.32 น. วันศุกร์ (9 ก.ย.65) ตามเวลาไทย ณ พระราชวังบาลมอรัล สกอตแลนด์ สิริพระชนมพรรษา 96 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติได้ 70 ปี

อย่างไรก็ตาม ด้านเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ผู้เป็นรัชทายาทจะขึ้นครองราชสมบัติต่อไป เชื่อว่าจะมีพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3"


ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews