หมอเลี๊ยบ สุรพงษ์ แนะนำแจกสูตรใช้ ยาฟ้าทะลายโจร ลดอาการป่วยแบบถูกวิธี

19 กรกฎาคม 2564

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมช.สาธารณสุข โพสต์แนะนำแจกสูตรจากอาจารย์หมอรามา ใช้ยาฟ้าทะลายโจร ลดอาการป่วยแบบถูกวิธี เห็นผลวิจัยแล้วมีความหวัง สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้

จากที่วิกฤตโควิดในไทยเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จึงเป็นเหตุผลทำให้ยาแผนไทยได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้าน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมช.สาธารณสุข ผู้ประสานกลุ่ม CARE ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงข้อเสนอในการรับมือกับ โควิด กับหัวข้อ รอตรวจ รอเตียง อย่ารอตาย สู้โควิดด้วยฟ้าทะลายโจรอย่างถูกวิธี 

เชื้อโควิด

 

โดย นพ.สุรพงษ์ ได้แนะนำถึงการรับประทานยาฟ้าทะลายโจรเพื่อรักษาอาการโควิดเบื้องต้น เนื่องจากทุกวันนี้จำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บวกกับยังไม่มีการฉีดวัคซีนทั่วถึง ทำให้จำนวนผู้ป่วยหนักมีจำนวนมาก เตียงรองรับไม่ทัน ฉะนั้นการที่จะลดอัตราการเสียชีวิตให้น้อยลง และผู้ป่วยใหม่มีอาการไม่หนักเห็นทีจะเป็นการแก้สถานการณ์ในครั้งนี้ได้

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมช.


อดีตรองนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่า ทางออกที่แท้จริงของการสู้โควิดคือ ต้องหายากินเพื่อหยุดการเพิ่มจำนวนของไวรัสตั้งแต่ระยะแรกที่เข้าสู่ร่างกาย ไม่ให้ไวรัสมีปริมาณมากจนลงไปที่ปอด แล้วทำให้ผู้ป่วยอาการหนักจนเสียชีวิต ปัจจุบัน ยากินหลายชนิดที่กำลังวิจัยในระยะที่ 3 เช่น โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ก็มีแนวคิดเช่นนี้ แต่ต้องกินทันทีหลังรับเชื้อ เมื่ออาการหนักแล้วยาจะไม่ได้ผล


หรืออีกหนึ่งตัวเลือกคือ การรักษาอาการป่วยด้วย ฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีสาร แอนโดรกราโฟไลด์ ( Andrographolide) และในประเทศไทยเคยเตรียมทำวิจัยเรื่องนี้ในการระบาดระลอก 2  ซึ่งกรมแพทย์แผนไทยฯ เชิญอาจารย์แพทย์รามาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านโรคติดเชื้อและระบาดวิทยาคลินิก ได้เป็นผู้วิจัยร่วมและตรวจสอบความถูกต้อง และผลวิจัยปรากฏออกมาว่า แอนโดรกราโฟไลด์ ยับยั้งอาการหนักในผู้ป่วยโควิดได้


จากการวิจัยที่กล่าวถึงคือ กลุ่มตัวอย่าง 57 ผู้ป่วยที่ได้รับประทานยาหลอก มีอาการปอดบวม 10.7% ขณะที่ผู้ป่วยที่รับประทาน แอนโดรกราโฟไลด์ ไม่มีอาการปอดบวมเลยแม้แต่คนเดียว เมื่อเห็นเช่นนั้น จึงได้ขยายเพิ่มจำนวนตัวอย่างเป็น 539 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม ที่ไม่ได้รับ แอนโดรกราโฟไลด์ มีปอดบวม 24% หรือ 71 คน


อีกกลุ่มเป็นกลุ่มที่ได้รับ แอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งผลปรากฏว่า มีปอดบวมเพียง 0.4% หรือ 1 คน และคนที่มีปอดบวม ได้รับ แอนโดรกราโฟไลด์ ช้า คือกินยาเมื่อรับเชื้อแล้วถึง 11 วัน

การรับประทานยาฟ้าทะลายโจร

ทั้งนี้ ขนาดยา แอนโดรกราโฟไลด์ ที่ใช้ในการวิจัยคือ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ให้ติดต่อกัน 5 วัน ซึ่ง แคปซูลฟ้าทะลายโจรในท้องตลาดมีปริมาณสารสกัด แอนโดรกราโฟไลด์ ไม่เท่ากัน ดังนั้น จำนวนแคปซูลที่กินก็ต้องแตกต่างกันไป ถ้ากินฟ้าทะลายโจรไม่ถูกวิธี ไม่ถึงขนาดที่ใช้ในงานวิจัย คือได้รับ แอนโดรกราโฟไลด์ น้อยกว่า 180 มิลลิกรัมต่อวัน จะไม่สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัสได้


อีกหนึ่งการทดสอบ ฟ้าทะลายโจร ที่ได้รับผลดี คือ กรณี การระบาดในเรือนจำ เมื่อส่งข้อมูลการวิจัยดังกล่าวไปให้ ก็มีการจัดยาฟ้าทะลายโจรให้ผู้ต้องขังอย่างทั่วถึง ทั้งนี้เมื่อพิจารณาตัวเลขผู้ป่วยหนักและผู้เสียชีวิตสะสมในเรือนจำจนถึงสัปดาห์ที่แล้วพบว่า มีอัตราต่ำกว่าผู้ป่วยโควิดภายนอกเรือนจำอย่างมีนัยสำคัญ 

การรับประทานยาฟ้าทะลายโจร


*** อัตราผู้เสียชีวิตในเรือนจำ : อัตราผู้เสียชีวิตของทั้งประเทศ เท่ากับ 0.12% : 0.87%

 

นพ.สุรพงษ์ อธิบายต่อไปว่า จากการวิจัยข้างต้นสรุปกับตัวเองได้ว่า  หากให้ผู้ป่วยรับประทาน แอนโดรกราโฟไลด์ ทันทีที่ตรวจพบเชื้อ ในทางทฤษฎีจะทำให้ไวรัสเพิ่มจำนวนไม่ได้ จึงทำให้อาการป่วยจึงไม่รุนแรง อีกทั้งไวรัสไม่ลงปอด ไม่มีปอดบวม ผู้ป่วยไม่ต้องเข้า ICU และไม่เสียชีวิต และผลดีที่ตามมาก็คือ ลดจำนวนผู้ป่วยหนัก ช่วยแก้ปัญหาเตียงไม่พอและขาดแคลนแพทย์พยาบาล


ดังนั้นถ้าส่งเสริมให้ใช้ แอนโดรกราโฟไลด์ ในผู้ติดเชื้อที่มีอาการน้อยและผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงทันที น่าจะช่วยลดอัตราการป่วยหนักจากปอดบวม และลดอัตราเสียชีวิตลงได้ นอกจากนี้ยังมีราคาไม่แพง ตามขนาดที่ใช้ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ใช้ติดต่อกัน 5 วัน ราคาประมาณ 200 บาท จึงแนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบรรจุ แอนโดรกราโฟไลด์ ในตำรับยาที่ใช้รักษาโควิด 

 

อย่างไรก็ตาม นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมช.สาธารณสุข ผู้ประสานกลุ่ม CARE ยังได้ทิ้งท้ายไว้อีกว่า ขณะที่เราตามหาวัคซีนและยา

วัคซีน