วันเดอร์เฟรม พร้อมครอบครัวขอบคุณตำรวจ หลังตามจับมือตัดต่อภาพลามก

21 มิถุนายน 2564

นางสาว ศุภัคชญา สุขใบเย็น นักร้องสาว วันเดอร์เฟรม หรือ เฟรม พร้อมคุณพ่อและทนาย ติดตามความคืบหน้าคดีตัดต่อภาพอนาจารที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท.

เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 21 มิ.ย. ที่ บก.ปอท. นางสาว ศุภัคชญา สุขใบเย็น นักร้องสาว วันเดอร์เฟรม หรือ เฟรม พร้อมคุณพ่อและทนาย  ติดตามความคืบหน้าคดีตัดต่อภาพอนาจารที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. 

 

หลังจากตำรวจ บก.ปอท. ได้จับกุมนายศุภโชค เต็งเจริญกุล อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 618/2564 ลงวันที่ 30 มี.ค.64 ข้อหาเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า ทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆซึ่งสิ่งอื่นใดอันลามก และผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย จับกุมผู้ต้องหาบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 ตำบลเมืองเก่า อำเมืองขอนแก่น 

พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท. ) เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เผยภาพรูปภาพทำให้เกิดความเสียหายลามกอนาจารต่อบุคคลอื่น โทษจำคุกไม่เกิน3ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับฯ ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นำเข้าข้อมูลลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, และนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้อื่นเสียหา โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งคดีดังกล่าวมีอัตราโทษสูง 

อีกทั้งจากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจตรวจสอบในคอมพิวเตอร์ และแอคเค้าท์ของผู้ต้องหา พบภาพของผู้เสียหายถูกตัดต่อเตรียมเผยแพร่เพื่อการพาณิชย์มากกว่า 1,000 รูป แต่ที่น่าสังเกตคือไม่มีรูปของดาราคนอื่นๆ และผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพ ถือได้ว่า พยานหลักฐานค่อนข้างแน่นหนา สามรถใช้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ทุกข้อหาอย่างแน่นอน ส่วนที่หลังจากนี้หากผู้ต้องหา จะกลับคำให้การว่า มีอาการวิกลจริต ก็ไม่สามารถฟังได้ เพราะลักษณะพฤติการณ์ เป็นการกระทำในเชิงพาณิชย์ ทั้งไม่พบประวัติการรักษา ทั้งนี้เหลือเพียงการสอบทะเบียนประวัติอาชญากรรม หากเสร็จสิ้นจะนำตัวส่งอัยการเพื่อสัั่งฟ้องต่อไป

ด้าน น้องเฟรม เปิดเผยว่า หลังรู้ว่าตำรวจจับคนร้ายได้ก็รู้สึกดีใจ และสบายใจมากขึ้นในความปลอดภัยของตัวเอง เชื่อว่าผู้ก่อเหตุได้รับบทเรียนและบทลงโทษอย่างสาสมแล้ว ผลจะเป็นอย่างไรให้เป็นไปตามขั้นตอน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็จะยังคงแต่งตัวเหมือนเดิม และลงรูปในโซเชียลมีเดียเหมือนเดิม เพราะมองว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลในเรือนร่างของตัวเอง และการลงรูปต่างๆ ก็ไม่ได้เกินขอบเขตที่ผิดกฎหมาย หรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทั้งนี้เตรียมพิจารณาเอาผิดบุคคลที่อินบ๊อกมาขอหลับนอน หรือ กระทำการคุกคามทางเพศ เพราะมีผู้ไม่หวังดีกระทำการดังกล่าวเป็นจำนวนมากจึงขอให้เลิกกิจการดังกล่าวก่อนที่ตนเองและครอบครัวจะดำเนินคดีทางกฎหมาย