ทางด้าน กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินหน้าโครงการ "ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ" ซึ่งทางภาครัฐจะสนับสนุนงบประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน ให้ลูกหลานที่ต้องลาออกมาดูแลเครือญาติ หรือคนในชุมชน ที่ดูแลผู้สูงอายุเปราะบางแล้วไม่มีใครดูแล เพื่อที่จะไม่ต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์พัฒนาการและสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ
โดยระเบียบในราชกิจจานุเบกษา ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 ประกอบกับข้อ 2 แห่งประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดหน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนผู้สูงอายุในด้านต่างๆ ตาม พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ จึงวางระเบียบไว้
การคุ้มครองตามระเบียบนี้ ผู้สูงอายุต้องยินยอมเป็นหนังสือตามแบบที่อธิบดีกำหนด กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถให้การยินยอมได้ ให้นักสังคมสงเคราะห์เป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริง และเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการการ ขอคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุ ให้ขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน
คุณสมบัติ ครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ ได้ 3000 บาทต่อเดือน
ขั้นตอนการขอเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ
1. ในท้องที่กรุงเทพมหานคร ให้ยื่นค้าขอได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด
2. ในจังหวัดอื่น ให้ยื่นค้าขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุที่อยู่ในจังหวัดนั้น การยื่นค้าขอตามวรรคหนึ่ง ต้องแสดงเอกสารหลักฐานของผู้ยื่น ได้แก่
เงื่อนไขการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ผู้สูงอายุ
จำนวนเงินที่ได้รับการคุ้มครอง
โดยทางด้าน เว็บไซต์กรมกิจการผู้สูงอายุ รายงานว่า โครงการดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2567 โดยปีแรกตั้งงบประมาณรองรับ 1,100 ราย